#Anthropology

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบหลักฐานการผลิตยางไม้ของมนุษย์นีแอนเดอร์ธัล

นักโบราณคดีค้นพบเตาผิงโบราณในถ้ำ Vanguard Cave ยิบรอลตาร์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มนุษย์นีแอนเดอร์ธัลใช้ผลิตกาวจากยางไม้ เพื่อติดใบหินเข้ากับด้ามไม้ การค้นพบครั้งนี้เพิ่มหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์


ความสำคัญของยางไม้ในยุคนีแอนเดอร์ธัล

มนุษย์นีแอนเดอร์ธัลมีทักษะการล่าสัตว์ขั้นสูง สามารถล่าสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น ม้าป่า แรดขน สิงโตถ้ำ และแมมมอธ โดยใช้หอกหินที่ยึดติดกับด้ามไม้ด้วยกาวยางจากต้นเบิร์ช กาวนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและประสิทธิภาพในการล่าได้อย่างมาก ถึงแม้นักวิจัยจะพบหลักฐานว่ามนุษย์นีแอนเดอร์ธัลรู้จักการใช้ไฟในการปรับแต่งวัสดุ แต่กระบวนการผลิตยางไม้นั้นยังคงเป็นปริศนา

เทคโนโลยีการทำกาวจากยางไม้ของพวกเขาอาจถือได้ว่าเป็นการสร้างนวัตกรรมที่ซับซ้อนที่สุดในยุคนั้น โดยหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดเกี่ยวกับการใช้ยางไม้ของมนุษย์นีแอนเดอร์ธัล ถูกพบในแถบกลางอิตาลี ซึ่งมีอายุราว 190,000 ปี อย่างไรก็ตาม หลักฐานใหม่นี้ช่วยยืนยันว่าพวกเขามีความรู้ความชำนาญในการผลิตกาวจากทรัพยากรธรรมชาติ


การค้นพบเตาผิงที่ Vanguard Cave

เตาผิงโบราณนี้ถูกค้นพบในระหว่างการสำรวจถ้ำ Vanguard Cave ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Gorham’s Cave Complex ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก บริเวณถ้ำนี้เต็มไปด้วยร่องรอยกิจกรรมของมนุษย์นีแอนเดอร์ธัล เช่น โครงกระดูก เครื่องมือหิน และแม้แต่ภาพเขียนศิลปะโบราณ

Gorham’s Cave Complex,

นักวิจัยได้ใช้เทคนิคการวิเคราะห์อายุแบบ optically stimulated luminescence เพื่อระบุว่าเตาผิงนี้ถูกสร้างขึ้นระหว่าง 67,000 ถึง 60,000 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่มนุษย์ยุคใหม่ยังไม่เข้ามาในยุโรป นั่นหมายความว่าพื้นที่นี้เป็นถิ่นอาศัยของมนุษย์นีแอนเดอร์ธัลโดยเฉพาะ

ร่องรอยขี้เถ้า ถ่านไม้ และผลึกยางไม้ที่พบบริเวณเตาผิงชี้ให้เห็นว่าอาจมีการเผาวัสดุพืชเพื่อผลิตยาง นอกจากนี้ ยังพบธาตุอย่างสังกะสีและทองแดงในชั้นดิน ซึ่งสนับสนุนแนวคิดว่าพื้นที่นี้ถูกใช้เพื่อสร้างกาวยางไม้อย่างตั้งใจ


การทดลองจำลองกระบวนการผลิตยางไม้

นักวิจัยนำโดย Juan Ochando จากมหาวิทยาลัยมูร์เซีย ได้ทดลองสร้างยางไม้เพื่อยืนยันกระบวนการผลิต พวกเขาใช้ใบไม้จากต้น ร็อคโรส (Cistus ladanifer) ซึ่งเป็นพืชที่ผลิตสารเรซินเหนียวเรียกว่า labdanum ใบของต้นร็อคโรสอ่อนมีความเหนียวมากกว่าช่วงที่ใบแก่ ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในกระบวนการนี้

ในขั้นตอนการทดลอง ทีมงานสร้างเตาผิงจำลองในพื้นที่กลางแจ้งที่ประเทศโปรตุเกส พวกเขาปิดเตาผิงด้วยดินและทรายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเปลวไฟที่ร้อนเกินไป จากนั้นเผาไฟอ่อนๆ เป็นเวลา 2 ชั่วโมง

เมื่อเปิดเตาผิง พวกเขาพบว่าใบไม้ภายในมีเรซิน labdanum ไหลออกมา หลังจากการบีบอัดและให้ความร้อนต่อ สารเหนียวที่ได้มีคุณสมบัติคล้ายกับยางไม้ที่พบในเตาผิง Vanguard Cave และสามารถใช้ยึดหินฟลินท์เข้ากับด้ามไม้ได้สำเร็จ


หลักฐานเสริมจากแหล่งโบราณคดีอื่นๆ

ในถ้ำ Vanguard Cave ยังพบเครื่องมือหิน ฟอสซิลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก และนกจำนวนมาก ชี้ให้เห็นว่า พื้นที่นี้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำหรับการล่า Juan Ochando อธิบายว่าแถบนี้มีความหลากหลายทางนิเวศวิทยา จนได้รับการขนานนามว่า “เซเรงเกติแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน”


ข้อสรุปและความสำคัญของการค้นพบ

การค้นพบนี้เพิ่มหลักฐานว่ามนุษย์นีแอนเดอร์ธัลมีความชำนาญในการควบคุมไฟและผลิตวัสดุที่ซับซ้อน เช่น ยางไม้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการล่า งานวิจัยนี้ยังช่วยให้เราเข้าใจพัฒนาการทางวัฒนธรรมและความสามารถของมนุษย์นีแอนเดอร์ธัลมากยิ่งขึ้น

แม้จะยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าพวกเขาผลิตยางไม้อย่างไรในแต่ละพื้นที่ แต่การค้นพบครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการศึกษาต่อไปในแหล่งโบราณคดีอื่นๆ เพื่อเปิดเผยความลับของนวัตกรรมในยุคก่อนประวัติศาสตร์